อยากขายสินค้าให้ได้กำไรปัง ๆ ต้องมี Sale Page ตัวช่วยธุรกิจออนไลน์ เครื่องมือสำคัญที่ทุกเว็บไซต์ธุรกิจต้องมี ช่วยเพิ่มยอดขาย และปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำการตลาดออนไลน์ที่ช่วยดึงดูดความสนใจ และเร่งการตัดสินใจซื้อ อยากทำ Sale Page ให้น่าสนใจ และปิดการขายได้ต้องทำอย่างไร? ในบทความนี้มีคำตอบ ตามไปดูพร้อมกันได้เลย!
ทำความรู้จักกับ Sale Page ?
Sale Page คือ เว็บไซต์หน้าหนึ่งที่รวบรวมข้อมูลของสินค้า และบริการเอาไว้ครบในหน้าเดียว เพื่อดึงดูดความสนใจผู้เข้าชม โดยจะมีข้อมูลที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ เช่น รูปสินค้า ราคา รายละเอียด การใช้งาน สรรพคุณ ช่องทางการสั่งซื้อ หรือปุ่มสั่งซื้อ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าชมรู้สึกอยากซื้อ และนำไปสู่การปิดการขาย
นอกจากนี้ การทำ Sale Page ยังเป็นผลดีต่อการทำ SEO ในระยะยาว เมื่อเกิดการค้นหาสินค้าด้วย Keyword ที่ตรงกับสินค้า และบริการของธุรกิจ ก็มีโอกาสที่ผู้เข้าชมจะเห็นเว็บไซต์ของเราก่อนคู่แข่ง
5 เทคนิค สร้างกำไรด้วย Sale Page
เมื่อเว็บไซต์ธุรกิจมี Sale Page แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ เนื้อหา และความน่าสนใจ เพื่อดึงดูดให้เกิดการซื้อขาย สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย 5 เทคนิคดังต่อไปนี้…
1. มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน
จุดประสงค์ของการทำ Sale Page คือการขายสินค้า ดังนั้นรายละเอียดภายในควรเป็นเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมให้สินค้าน่าสนใจ กระตุ้นการขาย และควรรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เพื่อจัดทำเนื้อหา และรูปภาพให้สอดคล้องกับความชอบ ความต้องการ ช่วยให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น
2. คำโดดเด่น รูปภาพหยุดสายตา
การมีเนื้อหา และรูปภาพประกอบเป็นสิ่งที่ดี แต่จะดียิ่งขึ้นเมื่อเลือกคำให้ดูโดดเด่น ไม่สั้น และไม่ยาวจนเกินไป เป็นคำที่กระตุ้นให้เกิดความสนใจที่จะเลื่อนดูรายละเอียดต่อ และนำไปสู่การสั่งซื้อ ซึ่งนอกจากคำ รูปภาพก็เป็นอีกส่วนที่ขาดไม่ได้ ควรเลือกรูปภาพที่หยุดสายตา ดึงดูดความสนใจ และเป็นรูปภาพที่สอดคล้องกับสินค้า
3. โปรโมชั่นกระตุ้นการขาย
ควรมีโปรโมชั่นแสดงอยู่ในหน้า Sale Page อย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน และตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และโปรโมชั่นควรเป็นโปรโมชั่นที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และมีรายละเอียดที่ครบถ้วน เช่น ราคา สินค้าที่จะได้รับ ของแถม ระยะเวลาโปรโมชั่น
4. ความน่าเชื่อถือของสินค้า และบริการ
อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ตัดสินใจซื้อขายได้ง่ายที่สุด คือ ความน่าเชื่อถือของสินค้า และบริการ ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น รางวัลที่ได้รับ รีวิวของผู้ใช้จริง รวมถึงเงื่อนไขกรณีไม่พอใจสินค้า ยินดีคืนเงิน เป็นต้น ส่วนนี้จะช่วยให้ผู้เข้าชมเกิดความมั่นใจ และตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว
5. ปุ่ม Call To Action ที่ชัดเจน
การจะปิดการขาย ต้องมีปุ่ม Call To Action ที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้ว่าจะต้องติดต่อช่องทางใดเมื่อสนใจสั่งซื้อสินค้า และบริการ ซึ่งสามารถใส่ไว้หลายที่ ขึ้นอยู่กับความยาวของ Sale Page ซึ่งปุ่มเหล่านี้ควรมีคำที่ดึงดูด และกระตุ้นให้ตัดสินใจ เช่น รับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก ! หรือ สั่งซื้อเลย
การทำปุ่ม Call To Action ควรเป็นการเชื่อมเพื่อนำไปสู่การปิดการขาย เพราะผู้คนมักใช้เวลาในการสั่งซื้อไม่นาน ไม่ควรมีขั้นตอนที่ซับซ้อนเพราะจะทำให้เกิดความยุ่งยาก และทำให้ความอยากซื้อลดลง
เพียง 5 เทคนิคง่าย ๆ ก็สามารถเปลี่ยน Sale Page ในเว็บไซต์ธุรกิจให้น่าสนใจ และทำกำไรได้ในระยะยาว ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูนะครับ และสำหรับใครที่มีเว็บไซต์ หรืออยากทำ Sale Page แต่ไม่รู้จะเริ่มทำอย่างไร ให้ Nex Digital Marketing ช่วยคุณ เราพร้อมวางแผน และจัดทำให้ครบวงจรพร้อมใช้งาน ขอใบเสนอราคา ทักเลย!